หลักเกณฑ์การพิจารณาคำร้องขออยู่ต่อกรณีต่าง ๆ
๑.กรณีท่องเที่ยว
ให้อนุญาตครั้งละไม่เกิน ๓๐ วันแต่รวมแล้วไม่เกิน ๙๐ วัน นับแต่วันที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร
หลักเกณฑ์การพิจารณา
(๑) คนต่างด้าวต้องได้รับการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยว
(๒) ไม่เป็นบุคคลสัญชาติ หรือจำ พวกที่คณะกรรมการติดตามการปฏิบัติราชการของ
พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกำหนด
รายการเอกสารประกอบ จำนวน ๑ ชุด
๑. แบบคำขอ
๒. สำเนาหนังสือเดินทางของผู้ยื่นคำขอ
๓.รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว ๑ รูป
๒.กรณีครอบครัวคนไทย
กรณีเป็นครอบครัวของผู้มีสัญชาติไทย (เฉพาะบิดามารดา คู่สมรส บุตร
บุตรบุญธรรม หรือบุตรของคู่สมรส) ให้อนุญาตครั้งละไม่เกิน ๑ ปี
หลักเกณฑ์การพิจารณา
(๑) คนต่างด้าวต้องได้รับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว
(๒) มีหลักฐานแสดงความสัมพันธ์
(๓) กรณีคู่สมรสต้องมีความสัมพันธ์กันทั้งทางนิตินัยและพฤตินัย หรือ
(๔) กรณีบุตร บุตรบุญธรรม หรือบุตรของคู่สมรสขออยู่ในความอุปการะบุตร
บุตรบุญธรรม หรือบุตรของคู่สมรสนั้นต้องยังไม่ได้สมรส และอยู่อาศัยเป็นส่วนแห่ง
ครัวเรือนนั้น และต้องมีอายุไม่เกิน ๒๐ ปี บริบูรณ์ หรือ
(๕) กรณีบิดาหรือมารดา บิดาหรือมารดา นั้นต้องมีรายได้เฉลี่ยทั้งปีไม่น้อยกว่าเดือนละ
๔๐,๐๐๐ บาท หรือต้องมีเงินฝากไม่น้อยกว่า ๔๐๐,๐๐๐ บาท เพื่อไว้ใช้จ่ายในรอบ ๑ ปี
กรณีมีเหตุจำเป็นอื่น ให้ ผบช.สตม. หรือ รอง ผบช.สตม. ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้มี
อำนาจพิจารณาอนุญาตเป็นราย ๆ ไป
(๖) กรณีสมรสกับหญิงไทย ฝ่ายสามีซึ่งเป็นคนต่างด้าวต้องมีรายได้เฉลี่ยทั้งปีไม่น้อยกว่า
เดือนละ ๔๐,๐๐๐ บาท หรือเงินฝากในธนาคารในประเทศไทยคงอยู่ในบัญชีตลอด
ระยะเวลาย้อนหลัง 2 เดือน ไม่น้อยกว่า ๔๐๐,๐๐๐ บาท เพื่อไว้ใช้จ่ายในรอบปี
รายการเอกสารประกอบ จำนวน ๒ ชุด
๑. แบบคำขอ
๒.สำเนาหนังสือเดินทางของผู้ยื่นคำขอ
๓.สำเนาเอกสารแสดงความสัมพันธ์กัน เช่น หลักฐานการสมรส สำเนาสูติบัตร หลักฐาน
การจดทะเบียนรับรองบุตร สำเนาทะเบียนบ้าน หลักฐานการจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรม หรือ หลักฐานอื่นจากส่วนราชการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
๔. สำเนาหลักฐานการมีสัญชาติไทยของคู่สมรส บิดา มารดา บุตร หรือบุตรบุญธรรม
เช่น บัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน หรือหลักฐานอื่นจากส่วนราชการหรือ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
๕. เฉพาะกรณีตามหลักเกณฑ์ข้อ (๕) และ (๖)ให้แนบหนังสือรับรองการมีเงินฝากจาก
ธนาคารในประเทศไทย และสำเนาบัญชีธนาคาร หรือให้แนบเอกสารแสดงการมีรายได้
ของบิดามารดา หรือสามีซึ่งเป็นคนต่างด้าวเฉลี่ยทั้งปีไม่น้อยกว่าเดือนละ ๔๐,๐๐๐ บาท
เช่น หลักฐานการยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแบบใดแบบหนึ่งพร้อม
ใบเสร็จรับเงิน หลักฐานการมีเงินบำนาญ หลักฐานรับรองการได้รับดอกเบี้ยเงินฝากหรือ
หลักฐานการมีเงินได้อื่นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และให้บันทึกถ้อยคำรับรองการเป็น
คู่สมรสของคนต่างด้าวหรือการเป็นบิดาหรือมารดาของบุตรผู้มีสัญชาติไทย
๖.รูปถ่ายขนาด ๒ นิ้ว ๒ รูป
หลักเกณฑ์การพิจารณาคำร้องขออยู่ต่อกรณีต่าง ๆ
๓.กรณีใช้ชีวิตบั้นปลาย
ให้อนุญาตครั้งละไม่เกิน ๑ ปี
หลักเกณฑ์การพิจารณา
(๑) คนต่างด้าวต้องได้รับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว
(๒) มีอายุตั้งแต่ ๕๐ ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
(๓) มีหลักฐานการมีเงินได้ไม่น้อยกว่า เดือนละ ๖๕,๐๐๐ บาท หรือ
(๔) ณ วันยื่นคำขอมีเงินฝากในธนาคารในประเทศไทยคงอยู่ในบัญชีตลอดระยะ
เวลาย้อนหลัง ๓ เดือน ไม่น้อยกว่า ๘๐๐,๐๐๐ บาท เฉพาะในปีแรกให้แสดงบัญชีเงิน
ฝากโดยมีเงินจำนวนดังกล่าวฝากอยู่ในบัญชีมาแล้วไม่น้อยกว่า ๖๐ วัน หรือ
(๕) มีเงินได้ในรอบปี และมีเงินฝากธนาคารคำนวณรวมกันได้ไม่น้อยกว่า ๘๐๐,๐๐๐ บาท
นับถึงวันยื่นคำขอ
(๖) คนต่างด้าว ซึ่งเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรก่อนวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๔๑
และได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเพื่อใช้ชีวิตในบั้นปลายต่อเนื่องตลอดมา
ให้ใช้หลักเกณฑ์ดังนี้
(ก) อายุ ๖๐ ปีขึ้นไป และมีรายได้ที่แน่นอน โดยมีเงินฝากคงอยู่ในบัญชี ตลอดระยะเวลาย้อนหลัง ๓ เดือน ไม่น้อยกว่าปีละ ๒๐๐,๐๐๐ บาท หรือ มีรายได้ ไม่น้อยกว่าเดือนละ ๒๐,๐๐๐ บาท
(ข) อายุไม่ถึง ๖๐ ปีแต่ไม่น้อยกว่า ๕๕ ปี ต้องมีรายได้ที่แน่นอนโดยมีเงินฝาก คงอยู่ในบัญชีตลอดระยะเวลาย้อนหลัง ๓ เดือน ไม่น้อยกว่าปีละ ๕๐๐,๐๐๐ บาท หรือ มีรายได้ไม่น้อยกว่าเดือนละ ๕๐,๐๐๐ บาท
หน้า ๔
รายการเอกสารประกอบ จำนวน ๑ ชุด
๑. แบบคำขอ
๒.สำเนาหนังสือเดินทางของผู้ยื่นคำขอ
๓.หลักฐานแสดงการมีเงินได้ เช่น เงินบำนาญ หรือการได้รับดอกเบี้ย หรือเงินปันผล เป็นต้นและ / หรือ
๔.หนังสือรับรองการมีเงินฝากจากธนาคารในประเทศไทย และสำเนาบัญชีธนาคาร
๕.เฉพาะกรณีตามหลักเกณฑ์ข้อ (๖)ให้แสดงเอกสารเช่นเดียวกับข้อ ๑ – ๔ ข้างต้น
๖.รูปถ่ายขนาด ๒ นิ้ว ๑ รูป
๔.กรณีเพื่อเยี่ยมคู่สมรสหรือเยี่ยมบุตรซึ่งมีสัญชาติไทย
ให้อนุญาตครั้งเดียวไม่เกิน ๖๐ วัน
หลักเกณฑ์การพิจารณา
(๑) มีหลักฐานแสดงความสัมพันธ์
(๒) กรณีคู่สมรสต้องมีความสัมพันธ์กันทั้งทางนิตินัยและพฤตินัย
รายการเอกสารประกอบ จำนวน ๑ ชุด
๑. แบบคำขอ
๒.สำเนาหนังสือเดินทางของผู้ยื่นคำขอ
๓. สำเนาทะเบียนบ้าน
๔.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มีสัญชาติไทย
๕.สำเนาทะเบียนสมรส หรือสำเนาสูติบัตร
๖.รูปถ่ายขนาด ๒ นิ้ว ๑ รูป
หลักเกณฑ์การพิจารณาคำร้องขออยู่ต่อกรณีต่าง ๆ
๕.กรณีเพื่อเยี่ยมญาติหรือกลับภูมิลำเนาเดิมของผู้เคยมีสัญชาติไทย หรือของผู้ที่มี
บิดาหรือมารดาเป็นบุคคลสัญชาติไทยหรือเคยมีสัญชาติไทย
ให้อนุญาตครั้งละไม่เกิน ๑ ปี
หลักเกณฑ์การพิจารณา
(๑) มีหลักฐานแสดงว่าเดิมเคยมีสัญชาติไทยหรือแสดงว่าบิดา หรือมารดามีสัญชาติไทย
หรือเคยมีสัญชาติไทย
รายการเอกสารประกอบ จำนวน ๑ ชุด
๑. แบบคำขอ
๒.สำเนาหนังสือเดินทางของผู้ยื่นคำขอ
๓. สำเนาเอกสารแสดงว่าเดิมเคยมีสัญชาติไทยหรือแสดงว่าบิดา หรือมารดา มีสัญชาติไทย
หรือเคยมีสัญชาติไทย(กรณีหลักฐานแสดงการมีสัญชาติไทยมีข้อมูลไม่ตรงกับหนังสือเดินทางให้ใช้หนังสือรับรองจากสถานทูต หรือสถานกงสุล หรือหลักฐาน
เอกสารที่ยืนยันว่าเป็นบุคคลเดียวกัน เช่น บันทึกสอบปากคำของบุคคลที่น่าเชื่อถือ )
๔.รูปถ่ายขนาด ๒ นิ้ว ๑ รูป
๖.กรณีเพื่อรับการรักษาพยาบาล หรือ การพักฟื้น หรือเพื่อดูแลผู้ป่วย
ให้อนุญาตครั้งละไม่เกิน ๙๐ วัน
หลักเกณฑ์การพิจารณา
(๑) ได้รับการรับรองและร้องขอจากแพทย์ประจำโรงพยาบาลที่ทำการตรวจรักษา โดย
ให้ปรากฏรายละเอียดเกี่ยวกับอาการป่วยระยะเวลาในการรักษา และความเห็นของ
แพทย์ผู้รักษาว่า อาการป่วยนั้นเป็นอุปสรรคต่อการเดินทาง
(๒) กรณีดูแลผู้ป่วยต้องได้รับการรับรองและร้องขอจากแพทย์ประจำโรงพยาบาลที่ทำ
การตรวจรักษา หรือจากสถานทูตหรือสถานกงสุล
หน้า ๖
(๓) ผู้ดูแลผู้ป่วย นอกจากบิดามารดา คู่สมรส บุตร บุตรบุญธรรม หรือบุตรของคู่สมรสแล้วให้อนุญาตได้อีกไม่เกิน 1 คน
รายการเอกสารประกอบ จำนวน ๑ ชุด
๑. แบบคำขอ
๒.สำเนาหนังสือเดินทางของผู้ยื่นคำขอ
๓.หนังสือรับรองและขอให้อยู่ต่อจากแพทย์ประจำโรงพยาบาลที่ทำการตรวจรักษา
๔.เฉพาะกรณีดูแลผู้ป่วยให้แนบหนังสือรับรองและขอให้อยู่ต่อจากแพทย์ประจำโรงพยาบาล
ที่ทำการตรวจรักษา และเอกสารแสดงความสัมพันธ์ (กรณีผู้ดูแลซึ่งเป็นส่วนแห่ง
ครัวเรือน) เช่นหลักฐานการสมรส สำเนาสูติบัตร หลักฐานการจดทะเบียนรับรองบุตรหรือหนังสือรับรองจากสถานทูต หรือสถานกงสุล
๕.รูปถ่ายขนาด ๒ นิ้ว ๑ รูป
๗.กรณีเพื่อการดำเนินคดีหรือดำเนินกระบวนพิจารณาอันเกี่ยวกับคดี
ให้อนุญาตครั้งเดียวไม่เกิน ๙๐ วัน
หลักเกณฑ์การพิจารณา
(๑) มีหลักฐานยืนยันว่าเป็นผู้เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดี หรือดำเนินกระบวนพิจารณาอัน
เกี่ยวกับคดี โดยเป็นผู้กล่าวหา ผู้เสียหาย ผู้ต้องหา โจทก์จำเลย หรือพยาน
รายการเอกสารประกอบ จำนวน ๑ ชุด
๑. แบบคำขอ
๒.สำเนาหนังสือเดินทางของผู้ยื่นคำขอ
๓.หนังสือรับรองจากพนักงานสอบสวนที่เกี่ยวข้องกับคดีหรือหนังสือหรือเอกสารทาง
ราชการที่ยืนยันว่าเป็นผู้เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดี หรือดำเนินกระบวนพิจารณาอัน
เกี่ยวกับคดี
๔.รูปถ่ายขนาด ๒ นิ้ว ๑ รูป
หลักเกณฑ์การพิจารณาคำร้องขออยู่ต่อกรณีต่าง ๆ
๘.กรณีมีเหตุจำเป็นจะต้องอยู่ปฏิบัติงานในส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงาน
อื่นของรัฐ
ให้อนุญาตครั้งละไม่เกิน ๑ ปี
หลักเกณฑ์การพิจารณา
(๑) คนต่างด้าวต้องได้รับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว
(๒) ได้รับการรับรองและร้องขอจากหน่วยงานหรือองค์กรนั้น ๆ
รายการเอกสารประกอบ จำนวน ๒ ชุด
๑. แบบคำขอ
๒. สำเนาหนังสือเดินทางของผู้ยื่นคำขอ
๓. สำเนาใบอนุญาตทำงาน
๔. หนังสือรับรองและขอให้อยู่ต่อจากส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐที่เกี่ยวข้อง
๕. หลักฐานแสดงความเป็นหน่วยงานของรัฐ (ถ้ามี)
๖.รูปถ่ายขนาด ๒ นิ้ว ๒ รูป
๙.กรณีเป็นครู หรืออาจารย์หรือผู้เชี่ยวชาญในสถานศึกษาของรัฐ
ให้อนุญาตครั้งละไม่เกิน ๑ ปี
หลักเกณฑ์การพิจารณา
(๑) คนต่างด้าวต้องได้รับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว
(๒) ได้รับการรับรองและร้องขอจากสถานศึกษานั้น
หน้า ๘
รายการเอกสารประกอบ จำนวน ๑ ชุด
๑. แบบคำขอ ๖.รูปถ่ายขนาด ๒ นิ้ว ๑ รูป
๒. สำเนาหนังสือเดินทางของผู้ยื่นคำขอ
๓.สำเนาใบอนุญาตทำงาน
๔.หนังสือรับรองและร้องขอให้อยู่ต่อจากสถานศึกษานั้น โดยระบุตำแหน่ง อัตรา
เงินเดือน และระยะเวลาการจ้าง
๕. สำเนาใบประกอบวิชาชีพครู หรือสำเนาหนังสือรับรองสิทธิจากคุรุสภา หรือสำเนา
หนังสือผ่อนผันจากคุรุสภา หรือสำเนาหนังสือรับคำขออนุญาตผ่อนผันจากคุรุสภา (ยกเว้นครู หรืออาจารย์ หรือผู้เชี่ยวชาญ ในระดับอุดมศึกษา)
๑๐.กรณีศึกษาพระพุทธศาสนา หรือปฏิบัติศาสนกิจ
ให้อนุญาตครั้งละไม่เกิน ๑ ปี
หลักเกณฑ์การพิจารณา
(๑) คนต่างด้าวต้องได้รับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว
(๒) ได้รับการรับรองจากสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือสำนักนายกรัฐมนตรี หรือ
มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือมหามกุฎราชวิทยาลัย
(๓) ได้รับการรับรองจากเจ้าอาวาสวัดที่ผู้ยื่นคำขอกำลังศึกษาหรือปฏิบัติศาสนกิจ
รายการเอกสารประกอบ จำนวน ๑ ชุด
๑. แบบคำขอ ๒.รูปถ่ายขนาด ๒ นิ้ว ๑ รูป
๓.สำเนาหนังสือเดินทางของผู้ยื่นคำขอ
๔.หนังสือรับรองจากสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือสำนักนายกรัฐมนตรี หรือ
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย หรือมหามกุฏราชวิทยาลัย หรือสถาบันการศึกษาของสงฆ์อื่น ๆ
๕.หนังสือรับรองจากเจ้าอาวาสวัดที่ผู้ยื่นคำขอกำลังศึกษาหรือปฏิบัติศาสนกิจ
หลักเกณฑ์การพิจารณาคำร้องขออยู่ต่อกรณีต่าง ๆ
๑๑..กรณีมีเหตุจำเป็นทางธุรกิจ เช่น จะต้องอยู่ปฏิบัติงานในบริษัท หรือ ห้างหุ้นส่วน
เป็นต้น
ให้อนุญาตครั้งละไม่เกิน ๑ ปี
หลักเกณฑ์การพิจารณา
(๑) คนต่างด้าวต้องได้รับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว
(๒) คนต่างด้าวต้องมีเงินได้ตามตารางเงินได้แนบท้ายคำสั่งนี้ (ผนวก ก)
(๓) ต้องเป็นธุรกิจซึ่งมีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วไม่ต่ำกว่า ๒ ล้านบาท
(๔) ธุรกิจนั้นต้องยื่นงบการเงิน ณ วันสิ้นงวด สองปีบัญชีที่ผ่านมา ที่ได้รับการตรวจรับรอง
ความถูกต้องจากผู้สอบบัญชีรับอนุญาตหรือผู้สอบบัญชีภาษีอากรแล้วแต่กรณีเพื่อแสดงว่า
ธุรกิจมีความมั่นคงเชื่อถือได้ มีการประกอบการจริง และมีความต่อเนื่อง โดยพิจารณาจากแนวทางพิจารณาสถานภาพธุรกิจว่ามีการประกอบการจริงและมีความต่อเนื่องแนบท้าย คำสั่งนี้ (ผนวก ข)
(๕) ธุรกิจนั้นมีความจำ เป็นจะต้องว่าจ้างคนต่างด้าวทำงาน
(๖) ธุรกิจนั้นต้องมีอัตราส่วนระหว่างจำนวนคนต่างด้าวกับพนักงานคนไทยประจำ ใน
อัตราส่วนคนต่างด้าว ๑ คนต่อพนักงานคนไทยประจำ ๔ คน
(๗) ธุรกิจประเภทดังต่อไปนี้ ให้ได้รับการยกเว้นหลักเกณฑ์ตามข้อ (๓) (๔) และ (๕)
และให้ได้รับการผ่อนผันในเรื่องอัตราส่วนคนไทยตามหลักเกณฑ์ข้อ (๖) โดยให้มีพนักงาน
คนไทยในอัตราส่วนคนต่างด้าว ๑ คน ต่อพนักงานคนไทยประจำ ๑ คน
(ก) ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ
(สำนักงานผู้แทน)
(ข) สำนักงานภูมิภาค
(ค) บริษัทข้ามชาติ (สำนักงานสาขา)
รายการเอกสารประกอบ จำนวน ๒ ชุด
๑. แบบคำขอ ๒.รูปถ่ายขนาด ๒ นิ้ว ๒ รูป
๓. สำเนาหนังสือเดินทางของผู้ยื่นคำขอ
๔. หนังสือรับรองคนต่างด้าวเข้าทำงานตามแบบของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
๕. สำเนาใบอนุญาตทำงาน (เฉพาะกรณีเปลี่ยนสถานประกอบการให้ใช้ใบรับคำขอได้)
๖. สำเนาหลักฐานการจดทะเบียนขององค์กรนั้น เช่น หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัทหรือการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วน ฉบับนายทะเบียนรับรองไม่เกิน ๖ เดือน
๗. สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นฉบับนายทะเบียนรับรอง ไม่เกิน ๖ เดือน
๘. สำเนางบดุล และงบกำไรขาดทุน ปีล่าสุดพร้อมแบบรายการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลและใบเสร็จรับเงิน
๙. สำเนาแบบยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ที่มีชื่อพนักงาน และชื่อคนต่างด้าวผู้ยื่นคำขอเดือนล่าสุดพร้อมสำเนาใบเสร็จรับเงิน
๑๐. สำเนาแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของคนต่างด้าวผู้ยื่นคำขอปีล่าสุดพร้อมใบเสร็จรับเงิน(ถ้ามี)
๑๑. สำเนาแบบรายการแสดงการส่งเงินสมทบตามที่ได้ยื่นไว้ต่อสำนักงานประกันสังคม (สปส.๑ - ๑๐) เดือนล่าสุด พร้อมสำเนาใบเสร็จรับเงิน
๑๒. เอกสารหรือหลักฐานแสดงว่าธุรกิจมีความจำเป็นจะต้องว่าจ้างคนต่างด้าวทำงาน เช่น ประกาศรับสมัครคนไทยเข้าทำงาน แล้วไม่มีผู้สมัคร เป็นต้น
๑๓. แผนที่แสดงสถานที่ทำงานของผู้ยื่นคำขอ และภาพถ่ายสถานที่ประกอบการ ภายนอกและภายในขณะเปิดทำการ
๑๔. เอกสารหรือหลักฐานอื่นตามที่คณะกรรมการติดตามการปฏิบัติราชการของพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ของ สตม. กำหนด
๑๕. ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ (สำนักงานผู้แทน)สำนักงานภูมิภาค และบริษัทข้ามชาติ (สำนักงานสาขา)ไม่ต้องแสดงเอกสารตามข้อ ๖, ๗ และ ๑๑
บ้านแสนรัก ของสามีภรรยาสุดที่รัก กับสุนัขพันธ์ปั๊ก 4 ตัว จำหน่ายลีลาวดี สวยๆ ด้วยนะครับ *** ถามปัญหา ? คุยกันใน Webboard ครับ
เกี่ยวกับฉัน
วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2554
วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2554
ชมสวน บ้านผู้กองกบ
ในสวนเล็ก ที่เรียกสวนเล็ก เพราะเป็นสวนซ้อนในสวนใหญ่ ต้องทำรั้วเตี้ยๆ ไว้กันเจ้าน้องปั๊กออกไปซนในสวนใหญ่ เพราะมันมีบ่อน้ำ เดี๋ยวตกน้ำป๋อมแป๋ม
ด้านข้างของตัวบ้าน ภาพนี้ถ่ายนานแล้ว ปัจจุบันต้นไม้โตขึ้นมากมาย
ต้นศรีตรังที่เห็นในภาพ ตอนนี้สูงสิบเมตร ปีนี้ทำท่าจะออกดอกแล้วล่ะ
เกวียนที่เห็นซื้อมาหมื่นสาม เป็นไม้สักทั้งตัวเลย
ถนนกรวด ได้อารมณ์ชนบทของอิตาลี่
รั้วที่เห็น ตอนนี้เป็นรั้วไม้ทาสีขาว
หน้าบ้าน
ศาลาไทย ถัดไปเป็นบ่อน้ำขนาดเกือบไร่
ท้องฟ้ายามหน้หนาวที่ผ่านมานี่เอง นอนแปลญวนกลางสวน หงายหน้ามองฟ้า เลยถ่ายรูปไว้ ทำ Wall paper
ด้านข้างของตัวบ้าน ภาพนี้ถ่ายนานแล้ว ปัจจุบันต้นไม้โตขึ้นมากมาย
ต้นศรีตรังที่เห็นในภาพ ตอนนี้สูงสิบเมตร ปีนี้ทำท่าจะออกดอกแล้วล่ะ
เกวียนที่เห็นซื้อมาหมื่นสาม เป็นไม้สักทั้งตัวเลย
ถนนกรวด ได้อารมณ์ชนบทของอิตาลี่
รั้วที่เห็น ตอนนี้เป็นรั้วไม้ทาสีขาว
หน้าบ้าน
ศาลาไทย ถัดไปเป็นบ่อน้ำขนาดเกือบไร่
ท้องฟ้ายามหน้หนาวที่ผ่านมานี่เอง นอนแปลญวนกลางสวน หงายหน้ามองฟ้า เลยถ่ายรูปไว้ ทำ Wall paper
วันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2554
โรคและแมลงที่รบกวนลีลาวดี
โรคพืชที่เป็นกับต้นลีลาวดี หรือลั่นทม มีดังนี้
1.โรคราสนิม เกิดจากเชื้อราซึ่งสังเกตได้ด้วยตาเปล่า หากมีจุดหรือกระจุกปุยๆ สีเหลืองอยู่ทั่วใต้ใบ ขณะที่ด้านบนของใบเป็นรอยแผลสีน้ำตาลดำ กระจุกสีเหลืองนั้นคือราสนิมที่กำลังสร้างสเปอร์สีเหลือง และกระจายแพร่พันธุ์ไปตามลม เมื่อสเปอร์ตกลงบนใบก็จะงอกรากแทงลงไปในผิวของใบเพื่อดูดกินน้ำเลี้ยงในใบ ทำให้ผิวใบเปลี่ยนเป็นสีเหลือง เหี่ยวและร่วงหลุด แต่สเปอร์ที่ปลิวฟุ้งกระจายจะขยายพันธุ์ต่อไป
ราสนิมมักเกิดในช่วง อากาศชื้น เย็น แต่จะหายไปเมื่ออากาศร้อนและแห้ง วิธีป้องกันที่ดีคือตัดแต่งกิ่งและใบให้มีช่องการระบายอากาศได้ดี สังเกตดูเมื่อเริ่มเกิดโรคที่ใบใด ให้เด็ดไปฝังหรือเผาให้ไกลต้น เป็นการควบคุมปัญหาที่ดีที่สุด ส่วนการกำจัดด้วยสารเคมี (สารละลายกำมะถันผง 30-40 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร) อันตรายและไม่คุ้มเงิน เพราะเมื่ออากาศชื้นมันจะกลับมาเป็นซ้ำแล้วซ้ำอีก
จะพบลีลาวดีเป็น โรคราสนิมเสมอหากอยู่ในสภาพแวดล้อมดังต่อไปนี้ 1.อยู่ในที่ที่มีความชื้นในอากาศสูงเป็นระยะเวลายาวนาน หรือรดน้ำบ่อยครั้งเกินไป 2.ได้รับแสงแดดไม่เพียงพอ ทำให้ต้นอ่อนแอ 3.มีใบปกคลุมมากเกินไป และได้รับปุ๋ยที่มีธาตุไนโตรเจนสูง ทำให้ต้นอวบน้ำกว่าปกติ 4.มีต้นไม้อื่นที่มีเชื้อสาเหตุโรคพืชอยู่ใกล้ๆ
2.เพลี้ยแป้ง เป็นปุยสีขาวอยู่ใต้ใบคล้ายแป้ง มีเส้นใยปกคลุม ตัวเพลี้ยสีขาวอยู่ในเส้นใยนั้น หากใช้นิ้วบี้ปุยขาวจะมีน้ำสีเหลืองและแดงออกมา มันจะทำลายตามใต้ใบ ลำต้น และยอดอ่อน ที่ร้ายคือจะดูดกินน้ำในใบจนใบเฉาแห้ง ทำให้ต้นแคระแกร็น ใบร่วง และถ้ามีปริมาณมากต้นอาจทรุดโทรมตายได้ นอกจากนั้น มันยังปล่อยน้ำหวานดึงดูดให้มดเข้ามากิน และเป็นสาเหตุให้เกิดราดำ ถ้าพบปริมาณไม่มากใช้วิธีรูดตัวออกมาทำลาย ถ้ามีมดเดินอยู่ใช้ยาฆ่ามดหรือราดที่รังมดป้องกันการแพร่กระจายพันธุ์ด้วย สารคาร์บาริล ถ้าจำเป็นใช้สารประเภทสะเดาฉีดพ่นห่างกัน 4-5 วัน ติดต่อกัน 2 ครั้ง
3.เพลี้ยไฟ เป็นแมลงขนาดเล็กมาก มีปีกบินได้ มักเกาะอยู่ใต้ใบอ่อน มันจะดูดกินน้ำเลี้ยงและปล่อยสารพิษเข้าในเนื้อเยื่อทำให้ยอดและใบลีลาวดี บิดเบี้ยว กลายเป็นสีน้ำตาลและหลุดร่วงไป เพลี้ยไฟมากับอากาศร้อนและแห้งแล้ง การป้องกันทำได้ยาก หากเป็นแล้วให้เด็ดใบทิ้งหรือฉีดพ่นด้วยสารสะเดา หรือใช้สารเคมีมาลาไธออน หรือพาราไธออน ซึ่งต้องระวังและป้องกันตัวในการฉีดพ่นให้ดี แต่เนื่องจากเพลี้ยไฟเป็นแมลงที่มีการเคลื่อนไหวในเวลากลางวัน พบมากช่วงเวลา 08.00-12.00 น. การพ่นสารเคมีซึ่งโดยทั่วไปแนะนำให้พ่นในเวลาเย็น แต่ในกรณีของเพลี้ยไฟควรพ่นสารเคมีในตอนเข้า
4.โรคลำต้นเน่า มีอาการลำต้นนิ่ม ใบและยอดค่อยๆ เหี่ยวและกลายเป็นสีดำ ใบร่วง เมื่อบีบลำต้นจะแบนจนติดกัน ผ่าดูจะเห็นภายในลำต้นมีเนื้อเยื่อเน่าเป็นสีดำ สาเหตุเกิดจากเชื้อราเข้าสู่ลำต้นทางบาดแผล ซึ่งอาจติดมาตั้งแต่ตอนตัดกิ่งเพื่อปักชำ มีเชื้อแบคทีเรียเข้ามาช่วยให้เน่า การป้องกันจึงต้องเริ่มตั้งแต่การทำความสะอาดมีดหรือกรรไกรที่ตัดให้สะอาด ด้วยแอลกอฮอล์ แต่ส่วนใหญ่กว่าจะรู้ว่าภายในต้นเน่าโรคก็ลุกลามไปแล้ว ให้สังเกตยอดและผิวของกิ่งที่เป็นจะเห็นใบเหี่ยวลู่ ผิวกิ่งเหี่ยวเป็นรอยย่น ตัดดูภายในพบเน่าให้ตัดกิ่งที่เป็นโรคทิ้งให้หมด ไม่ต้องเสียดาย หากต้นยังแข็งแรงดีกิ่งและใบจะงอกงามอีก
1.โรคราสนิม เกิดจากเชื้อราซึ่งสังเกตได้ด้วยตาเปล่า หากมีจุดหรือกระจุกปุยๆ สีเหลืองอยู่ทั่วใต้ใบ ขณะที่ด้านบนของใบเป็นรอยแผลสีน้ำตาลดำ กระจุกสีเหลืองนั้นคือราสนิมที่กำลังสร้างสเปอร์สีเหลือง และกระจายแพร่พันธุ์ไปตามลม เมื่อสเปอร์ตกลงบนใบก็จะงอกรากแทงลงไปในผิวของใบเพื่อดูดกินน้ำเลี้ยงในใบ ทำให้ผิวใบเปลี่ยนเป็นสีเหลือง เหี่ยวและร่วงหลุด แต่สเปอร์ที่ปลิวฟุ้งกระจายจะขยายพันธุ์ต่อไป
ราสนิมมักเกิดในช่วง อากาศชื้น เย็น แต่จะหายไปเมื่ออากาศร้อนและแห้ง วิธีป้องกันที่ดีคือตัดแต่งกิ่งและใบให้มีช่องการระบายอากาศได้ดี สังเกตดูเมื่อเริ่มเกิดโรคที่ใบใด ให้เด็ดไปฝังหรือเผาให้ไกลต้น เป็นการควบคุมปัญหาที่ดีที่สุด ส่วนการกำจัดด้วยสารเคมี (สารละลายกำมะถันผง 30-40 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร) อันตรายและไม่คุ้มเงิน เพราะเมื่ออากาศชื้นมันจะกลับมาเป็นซ้ำแล้วซ้ำอีก
จะพบลีลาวดีเป็น โรคราสนิมเสมอหากอยู่ในสภาพแวดล้อมดังต่อไปนี้ 1.อยู่ในที่ที่มีความชื้นในอากาศสูงเป็นระยะเวลายาวนาน หรือรดน้ำบ่อยครั้งเกินไป 2.ได้รับแสงแดดไม่เพียงพอ ทำให้ต้นอ่อนแอ 3.มีใบปกคลุมมากเกินไป และได้รับปุ๋ยที่มีธาตุไนโตรเจนสูง ทำให้ต้นอวบน้ำกว่าปกติ 4.มีต้นไม้อื่นที่มีเชื้อสาเหตุโรคพืชอยู่ใกล้ๆ
2.เพลี้ยแป้ง เป็นปุยสีขาวอยู่ใต้ใบคล้ายแป้ง มีเส้นใยปกคลุม ตัวเพลี้ยสีขาวอยู่ในเส้นใยนั้น หากใช้นิ้วบี้ปุยขาวจะมีน้ำสีเหลืองและแดงออกมา มันจะทำลายตามใต้ใบ ลำต้น และยอดอ่อน ที่ร้ายคือจะดูดกินน้ำในใบจนใบเฉาแห้ง ทำให้ต้นแคระแกร็น ใบร่วง และถ้ามีปริมาณมากต้นอาจทรุดโทรมตายได้ นอกจากนั้น มันยังปล่อยน้ำหวานดึงดูดให้มดเข้ามากิน และเป็นสาเหตุให้เกิดราดำ ถ้าพบปริมาณไม่มากใช้วิธีรูดตัวออกมาทำลาย ถ้ามีมดเดินอยู่ใช้ยาฆ่ามดหรือราดที่รังมดป้องกันการแพร่กระจายพันธุ์ด้วย สารคาร์บาริล ถ้าจำเป็นใช้สารประเภทสะเดาฉีดพ่นห่างกัน 4-5 วัน ติดต่อกัน 2 ครั้ง
3.เพลี้ยไฟ เป็นแมลงขนาดเล็กมาก มีปีกบินได้ มักเกาะอยู่ใต้ใบอ่อน มันจะดูดกินน้ำเลี้ยงและปล่อยสารพิษเข้าในเนื้อเยื่อทำให้ยอดและใบลีลาวดี บิดเบี้ยว กลายเป็นสีน้ำตาลและหลุดร่วงไป เพลี้ยไฟมากับอากาศร้อนและแห้งแล้ง การป้องกันทำได้ยาก หากเป็นแล้วให้เด็ดใบทิ้งหรือฉีดพ่นด้วยสารสะเดา หรือใช้สารเคมีมาลาไธออน หรือพาราไธออน ซึ่งต้องระวังและป้องกันตัวในการฉีดพ่นให้ดี แต่เนื่องจากเพลี้ยไฟเป็นแมลงที่มีการเคลื่อนไหวในเวลากลางวัน พบมากช่วงเวลา 08.00-12.00 น. การพ่นสารเคมีซึ่งโดยทั่วไปแนะนำให้พ่นในเวลาเย็น แต่ในกรณีของเพลี้ยไฟควรพ่นสารเคมีในตอนเข้า
4.โรคลำต้นเน่า มีอาการลำต้นนิ่ม ใบและยอดค่อยๆ เหี่ยวและกลายเป็นสีดำ ใบร่วง เมื่อบีบลำต้นจะแบนจนติดกัน ผ่าดูจะเห็นภายในลำต้นมีเนื้อเยื่อเน่าเป็นสีดำ สาเหตุเกิดจากเชื้อราเข้าสู่ลำต้นทางบาดแผล ซึ่งอาจติดมาตั้งแต่ตอนตัดกิ่งเพื่อปักชำ มีเชื้อแบคทีเรียเข้ามาช่วยให้เน่า การป้องกันจึงต้องเริ่มตั้งแต่การทำความสะอาดมีดหรือกรรไกรที่ตัดให้สะอาด ด้วยแอลกอฮอล์ แต่ส่วนใหญ่กว่าจะรู้ว่าภายในต้นเน่าโรคก็ลุกลามไปแล้ว ให้สังเกตยอดและผิวของกิ่งที่เป็นจะเห็นใบเหี่ยวลู่ ผิวกิ่งเหี่ยวเป็นรอยย่น ตัดดูภายในพบเน่าให้ตัดกิ่งที่เป็นโรคทิ้งให้หมด ไม่ต้องเสียดาย หากต้นยังแข็งแรงดีกิ่งและใบจะงอกงามอีก
วันอังคารที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2554
ลีลาวดี พรรณไม้งามนามไพเราะ
ลีลาวดี หรือชื่อเดิม ลั่นทม (ชื่อภาษาอังกกฤษ ได้แก่ Frangipani, Plumeria, Templetree)
เป็นไม้ดอกยืนต้นในสกุล Plumeria มีหลายชนิดด้วยกัน บางคนมีความเชื่อว่า ไม่ควรปลูกต้นในบ้าน เนื่องจากมีชื่อลั่นทมนั้นฟังแล้วไม่เป็นมงคล ไปพ้องกับคำว่า 'ระทม' ซึ่งแปลว่า เศร้าโศก แต่ปัจจุบันนิยมเรียกชื่อใหม่ ว่า ลีลาวดี และนิยมปลูกกันแพร่หลายอย่างมาก ชื่อพื้นเมืองอื่นๆ ได้แก่ จำปา,จำปาลาว และจำปาขอม เป็นต้น
ส่วนใหญ่ที่นิยมปลูกกันตามโรงแรม รีสอร์ท หรือ สปา จะเป็นพันธ์ขาวพวง ใบหนาสีเขียวเข้มเป็นมัน ทรงต้นพุ่มสวย ออกดอกเป็นพวงๆ สีขาวสะอาด กลิ่นหอมหวาน ถือเป็นพันธ์ Classic ที่จะต้องมี
ขาวพวง
ต่อมามีการพัฒนาปรับปรุงพันธ์หลากหลาย มีการนำพันธ์จากต่างประเทศเข้ามาทำให้เกิดลูกผสมใหม่ๆ นับร้อย
สีสันก็มากมายหลากหลาย สีที่ที่นิยมปลูกโชว์กันคือ สีชมพู สีโอโรส สีม่วง และสีแดงเข้ม
สีที่ท้าทายที่สุด และเป็นที่ค้นหาสำหรับนักสะสมคือ สีม่วงเข้ม
ขอขอบคุณภาพจาก Thai plumeria
เป็นไม้ดอกยืนต้นในสกุล Plumeria มีหลายชนิดด้วยกัน บางคนมีความเชื่อว่า ไม่ควรปลูกต้นในบ้าน เนื่องจากมีชื่อลั่นทมนั้นฟังแล้วไม่เป็นมงคล ไปพ้องกับคำว่า 'ระทม' ซึ่งแปลว่า เศร้าโศก แต่ปัจจุบันนิยมเรียกชื่อใหม่ ว่า ลีลาวดี และนิยมปลูกกันแพร่หลายอย่างมาก ชื่อพื้นเมืองอื่นๆ ได้แก่ จำปา,จำปาลาว และจำปาขอม เป็นต้น
ส่วนใหญ่ที่นิยมปลูกกันตามโรงแรม รีสอร์ท หรือ สปา จะเป็นพันธ์ขาวพวง ใบหนาสีเขียวเข้มเป็นมัน ทรงต้นพุ่มสวย ออกดอกเป็นพวงๆ สีขาวสะอาด กลิ่นหอมหวาน ถือเป็นพันธ์ Classic ที่จะต้องมี
ขาวพวง
ต่อมามีการพัฒนาปรับปรุงพันธ์หลากหลาย มีการนำพันธ์จากต่างประเทศเข้ามาทำให้เกิดลูกผสมใหม่ๆ นับร้อย
สีสันก็มากมายหลากหลาย สีที่ที่นิยมปลูกโชว์กันคือ สีชมพู สีโอโรส สีม่วง และสีแดงเข้ม
สีที่ท้าทายที่สุด และเป็นที่ค้นหาสำหรับนักสะสมคือ สีม่วงเข้ม
ขอขอบคุณภาพจาก Thai plumeria
บ้านสวนแสนรัก
บ้านหลังนี้ สร้างขึ้นด้วยใจ 1
ผมซื้อที่ดินแปลงนี้เอาไว้ตั้งแต่เป็นผู้หมวดหนุ่มๆ ยศร้อยตำรวจโท จนตอนนี้เป็นสารวัตรที่เริ่มจะแก่แล้ว จึงได้มีปัญญาเริ่มสร้างบ้านและจัดสวนเป็นรูปเป็นร่างกับเขา แรกเริ่มตอนมาซื้อเพราะมันเป็นสวนมะนาวขนาด 3 ไร่ มะนาวก็กำลังแพง เลยฝันว่าจะรวยเละ แล้วก็เละจริงๆ แต่ที่เละคือผลผลิตครับ
เพราะผมไม่ใช่ชาวสวน ไม่รู้ว่าการปลูกพืชไร่นั้นต้องดูแลเป็นอย่างมาก ทั้งใส่ปุ๋ย ทั้งฉีดยาฆ่าแมลง มะนาวของผมออกลูกไม่ได้ผลเท่าที่ควร แมลงก็เยอะ เป็นโรคอีก ดูแลไม่ไหว เลยโค่นทิ้งหมด
แล้วก็ทิ้งไว้เฉยๆ เป็นที่รกร้าง มีสัตว์ประหลาดไปอาศัย ชาวบ้านมาเช่าทำนาปลูกข้าว พอกุ้งกุลาบูม เขาก็มาเช่าเลีื้ยงกุ้งกุลาดำ เลี้ยงกุ้งนี่เล่นเอาดินเสีย เพราะเอาน้ำเค็มมาใส่
พอเขาเลิกทีนี้ ที่ดินก็กลายเป็นดาวอังคารเลยสิ ไม่มีสิ่งมีชีวิตบนพื้นดินเลยแม้นแต่หญ้าสักต้น เลยปล่อยทิ้ง ไว้ทำอะไรไม่ถูกแล้วล่ะ ประกาศขายก็ไม่มีใครซื้อ กลุ้มชะมัด ทิ้งร้างไปร่วม 10 ปี
ต่อมา ผมกับภรรยาคิดจะปลูกบ้านใน กทม. กะจะสร้างในงบสักล้านกว่าบาท เพราะเงินเดือนผมคงมีปัญญากู้ได้แค่นั้น แต่แล้ววันหนึ่ง เพื่อนชวนไปเที่ยวราชบุรี เราก็เออ แวะดูที่เราหน่อยซิ
พอเข้าไป ที่ดินของเราก็รกเหมือนเดิม แต่ โอ...ถนนราดยางมะตูม เอ๊ย มะตอยอย่างดีผ่านหน้าที่ อย่างสวยเชียว อากาศก็ดี รอบๆ มีแต่นาข้าวเขียวขจี
จากที่จะซื้อบ้านในกรุงเทพ ก็เลยมาพัฒนาที่ดินดาวอังคารของเราเพื่อสร้างบ้าน
ผมกับภรรยาก็ตั้งหน้า ตาตั้ง (ไม่ใช่ตั้งตา) เก็บตังค์ได้เท่าไหร่ก็ค่อยๆ เอามาพัฒนา แรกเริ่มก็ขุดดินในที่ตัวเองทำบ่อน้ำ เอาดินมาถมท่ี่ แล้วค่อยๆปลูกต้นไม้ต้นเล็กๆ ทีละน้อย เพราะยังไม่มีสตางค์ปลูกบ้าน
หมดเงินไปกับการซื้อดินและปุ๋ยคอกไปหลาย เพื่อแก้ปัญหาดินที่เสียจากการทำนากุ้ง เคยอ่านในหนังสือ เขาว่าต้องใช้เวลาเป็นสิบปีเชียว คิดแล้วก็เหนื่อย แต่ก็ค่อยๆทำ ค่อยๆเก็บเงินสร้างกระต๊อบไม้ไผ่ ไว้พักผ่อน เสาร์-อาทิตย์ ก็มากันสองคนผัวเมีย มาดูที่แล้วก็นอนในกระต๊อบ รั้วก็ไม่มีนะ คิดดูสิ กระต๊อบไม้ไผ่เล็กๆ กลางที่ดินเวิ้งว้าง กลัวโจรอยู่เหมือนกัน
ชวนเพื่อนมา เพื่อนก็มา แต่มันก็บ่นๆ ว่า "นี่หรือคือการพักผ่อน" เข้าใจนะ ก็ลองจินตนาการดู ที่ดินแล้งๆ ดินแห้งๆ ไม่มีร่มไม้เลย คิดดูง่ามันร้อนแค่ไหนตอนฤดูร้อน
ไว้เล่าต่อ
มองจากภายนอก บ้านแสนรัก กลางพื้นที่ 3 ไร่ |
เพราะผมไม่ใช่ชาวสวน ไม่รู้ว่าการปลูกพืชไร่นั้นต้องดูแลเป็นอย่างมาก ทั้งใส่ปุ๋ย ทั้งฉีดยาฆ่าแมลง มะนาวของผมออกลูกไม่ได้ผลเท่าที่ควร แมลงก็เยอะ เป็นโรคอีก ดูแลไม่ไหว เลยโค่นทิ้งหมด
แล้วก็ทิ้งไว้เฉยๆ เป็นที่รกร้าง มีสัตว์ประหลาดไปอาศัย ชาวบ้านมาเช่าทำนาปลูกข้าว พอกุ้งกุลาบูม เขาก็มาเช่าเลีื้ยงกุ้งกุลาดำ เลี้ยงกุ้งนี่เล่นเอาดินเสีย เพราะเอาน้ำเค็มมาใส่
พอเขาเลิกทีนี้ ที่ดินก็กลายเป็นดาวอังคารเลยสิ ไม่มีสิ่งมีชีวิตบนพื้นดินเลยแม้นแต่หญ้าสักต้น เลยปล่อยทิ้ง ไว้ทำอะไรไม่ถูกแล้วล่ะ ประกาศขายก็ไม่มีใครซื้อ กลุ้มชะมัด ทิ้งร้างไปร่วม 10 ปี
ต่อมา ผมกับภรรยาคิดจะปลูกบ้านใน กทม. กะจะสร้างในงบสักล้านกว่าบาท เพราะเงินเดือนผมคงมีปัญญากู้ได้แค่นั้น แต่แล้ววันหนึ่ง เพื่อนชวนไปเที่ยวราชบุรี เราก็เออ แวะดูที่เราหน่อยซิ
พอเข้าไป ที่ดินของเราก็รกเหมือนเดิม แต่ โอ...ถนนราดยางมะตูม เอ๊ย มะตอยอย่างดีผ่านหน้าที่ อย่างสวยเชียว อากาศก็ดี รอบๆ มีแต่นาข้าวเขียวขจี
จากที่จะซื้อบ้านในกรุงเทพ ก็เลยมาพัฒนาที่ดินดาวอังคารของเราเพื่อสร้างบ้าน
ผมกับภรรยาก็ตั้งหน้า ตาตั้ง (ไม่ใช่ตั้งตา) เก็บตังค์ได้เท่าไหร่ก็ค่อยๆ เอามาพัฒนา แรกเริ่มก็ขุดดินในที่ตัวเองทำบ่อน้ำ เอาดินมาถมท่ี่ แล้วค่อยๆปลูกต้นไม้ต้นเล็กๆ ทีละน้อย เพราะยังไม่มีสตางค์ปลูกบ้าน
หมดเงินไปกับการซื้อดินและปุ๋ยคอกไปหลาย เพื่อแก้ปัญหาดินที่เสียจากการทำนากุ้ง เคยอ่านในหนังสือ เขาว่าต้องใช้เวลาเป็นสิบปีเชียว คิดแล้วก็เหนื่อย แต่ก็ค่อยๆทำ ค่อยๆเก็บเงินสร้างกระต๊อบไม้ไผ่ ไว้พักผ่อน เสาร์-อาทิตย์ ก็มากันสองคนผัวเมีย มาดูที่แล้วก็นอนในกระต๊อบ รั้วก็ไม่มีนะ คิดดูสิ กระต๊อบไม้ไผ่เล็กๆ กลางที่ดินเวิ้งว้าง กลัวโจรอยู่เหมือนกัน
ชวนเพื่อนมา เพื่อนก็มา แต่มันก็บ่นๆ ว่า "นี่หรือคือการพักผ่อน" เข้าใจนะ ก็ลองจินตนาการดู ที่ดินแล้งๆ ดินแห้งๆ ไม่มีร่มไม้เลย คิดดูง่ามันร้อนแค่ไหนตอนฤดูร้อน
ไว้เล่าต่อ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)