มองจากภายนอก บ้านแสนรัก กลางพื้นที่ 3 ไร่ |
เพราะผมไม่ใช่ชาวสวน ไม่รู้ว่าการปลูกพืชไร่นั้นต้องดูแลเป็นอย่างมาก ทั้งใส่ปุ๋ย ทั้งฉีดยาฆ่าแมลง มะนาวของผมออกลูกไม่ได้ผลเท่าที่ควร แมลงก็เยอะ เป็นโรคอีก ดูแลไม่ไหว เลยโค่นทิ้งหมด
แล้วก็ทิ้งไว้เฉยๆ เป็นที่รกร้าง มีสัตว์ประหลาดไปอาศัย ชาวบ้านมาเช่าทำนาปลูกข้าว พอกุ้งกุลาบูม เขาก็มาเช่าเลีื้ยงกุ้งกุลาดำ เลี้ยงกุ้งนี่เล่นเอาดินเสีย เพราะเอาน้ำเค็มมาใส่
พอเขาเลิกทีนี้ ที่ดินก็กลายเป็นดาวอังคารเลยสิ ไม่มีสิ่งมีชีวิตบนพื้นดินเลยแม้นแต่หญ้าสักต้น เลยปล่อยทิ้ง ไว้ทำอะไรไม่ถูกแล้วล่ะ ประกาศขายก็ไม่มีใครซื้อ กลุ้มชะมัด ทิ้งร้างไปร่วม 10 ปี
ต่อมา ผมกับภรรยาคิดจะปลูกบ้านใน กทม. กะจะสร้างในงบสักล้านกว่าบาท เพราะเงินเดือนผมคงมีปัญญากู้ได้แค่นั้น แต่แล้ววันหนึ่ง เพื่อนชวนไปเที่ยวราชบุรี เราก็เออ แวะดูที่เราหน่อยซิ
พอเข้าไป ที่ดินของเราก็รกเหมือนเดิม แต่ โอ...ถนนราดยางมะตูม เอ๊ย มะตอยอย่างดีผ่านหน้าที่ อย่างสวยเชียว อากาศก็ดี รอบๆ มีแต่นาข้าวเขียวขจี
จากที่จะซื้อบ้านในกรุงเทพ ก็เลยมาพัฒนาที่ดินดาวอังคารของเราเพื่อสร้างบ้าน
ผมกับภรรยาก็ตั้งหน้า ตาตั้ง (ไม่ใช่ตั้งตา) เก็บตังค์ได้เท่าไหร่ก็ค่อยๆ เอามาพัฒนา แรกเริ่มก็ขุดดินในที่ตัวเองทำบ่อน้ำ เอาดินมาถมท่ี่ แล้วค่อยๆปลูกต้นไม้ต้นเล็กๆ ทีละน้อย เพราะยังไม่มีสตางค์ปลูกบ้าน
หมดเงินไปกับการซื้อดินและปุ๋ยคอกไปหลาย เพื่อแก้ปัญหาดินที่เสียจากการทำนากุ้ง เคยอ่านในหนังสือ เขาว่าต้องใช้เวลาเป็นสิบปีเชียว คิดแล้วก็เหนื่อย แต่ก็ค่อยๆทำ ค่อยๆเก็บเงินสร้างกระต๊อบไม้ไผ่ ไว้พักผ่อน เสาร์-อาทิตย์ ก็มากันสองคนผัวเมีย มาดูที่แล้วก็นอนในกระต๊อบ รั้วก็ไม่มีนะ คิดดูสิ กระต๊อบไม้ไผ่เล็กๆ กลางที่ดินเวิ้งว้าง กลัวโจรอยู่เหมือนกัน
ชวนเพื่อนมา เพื่อนก็มา แต่มันก็บ่นๆ ว่า "นี่หรือคือการพักผ่อน" เข้าใจนะ ก็ลองจินตนาการดู ที่ดินแล้งๆ ดินแห้งๆ ไม่มีร่มไม้เลย คิดดูง่ามันร้อนแค่ไหนตอนฤดูร้อน
ไว้เล่าต่อ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น